อาการเหนื่อยล้าจากการอ่านหนังสือ เป็นปัญหาที่พบบ่อย โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา หรือคนที่ต้องอ่านหนังสือสอบงานราชการที่ต้องอ่านเป็นเวลานานๆ อาการเหล่านี้อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการอ่านหนังสือ และทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ปวดหัว ตาพร่า
มีวิธีแก้ไขอาการเหนื่อยล้าจากการอ่านหนังสือดังนี้
1. ปรับท่าทางการอ่านหนังสือ
- นั่งตัวตรง หลังตรง ศีรษะตั้งตรง ห่างจากหนังสือประมาณ 1 ฟุต
- วางหนังสือให้เอียงทำมุมประมาณ 30 องศา
- พักสายตาบ่อยๆ โดยมองวัตถุท่ีอยู่ไกลออกไป ประมาณ 20 วินาที ทุกๆ 20-30 นาที
- ลุกขึ้นยืน ยืดเส้นยืดสาย เปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ
2. ปรับสภาพแวดล้อม
- อ่านหนังสือในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ ไม่สว่างจ้าหรือมืดจนเกินไป
- อ่านหนังสือในที่อากาศถ่ายเทสะดวก อุณหภูมิห้องไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป
- ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสิ่งรบกวนต่างๆ เช่น โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ
3. ดูแลสุขภาพ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
- จัดการความเครียด เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย
4. ฝึกสมาธิ
- ฝึกสมาธิ เพื่อให้มีสมาธิในการอ่านหนังสือ และลดความเครียด
- ฝึกหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ ช่วยให้ผ่อนคลาย และลดความเครียด
5. หาของว่างทานระหว่างอ่านหนังสือ
- ทานของว่างที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผลไม้ ถั่ว หรือโยเกิร์ต
- ดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำผลไม้
6. หาแรงบันดาลใจ
- ตั้งเป้าหมายการอ่านหนังสือ เช่น อ่านหนังสือให้จบเล่ม หรืออ่านหนังสือให้ได้กี่หน้าต่อวัน
- หาแรงบันดาลใจจากผู้อื่น เช่น อ่านเรื่องราวของคนที่ประสบความสำเร็จจากการอ่านหนังสือ
7. หากิจกรรมอื่นๆ ทำบ้าง
- หากิจกรรมอื่นๆ ทำบ้าง เช่น ฟังเพลง ดูหนัง หรือออกกำลังกาย
- พักผ่อนสมอง ไม่ควรอ่านหนังสือติดต่อกันเป็นเวลานาน
หากลองวิธีเหล่านี้แล้ว อาการเหนื่อยล้าจากการอ่านหนังสือยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์
นอกจากนี้ ยังมีวิธีอื่นๆ ที่ช่วยลดอาการเหนื่อยล้าจากการอ่านหนังสือ เช่น
- ฟังหนังสือแบบ Audiobook
- อ่านหนังสือสั้นๆ แทนการอ่านหนังสือเล่มใหญ่
- แบ่งเนื้อหาการอ่านออกเป็นส่วนๆ อ่านทีละส่วน พักสมองระหว่างอ่าน
- จดโน้ต หรือสรุปใจความสำคัญของเนื้อหา
- อธิบายเนื้อหาที่อ่านให้ผู้อื่นฟัง
การหาเทคนิคการอ่านที่เหมาะกับตัวเอง จะช่วยให้การอ่านหนังสือมีประสิทธิภาพ สนุกสนาน และไม่รู้สึกเหนื่อยล้า